Thursday, December 4, 2008

สับปะรดหนาม : การเลี้ยงดู : วัสดุปลูก : การขยายพันธุ์


คุณ fat man นี้มีอะไรสุดยอด ๆ มาให้ดูประจำเลย และก็ให้ความรู้ได้ดีมากด้วย อยากจะฝากถามว่า

พวกนี้มันทนเลี้ยงแบบกลางแจ้งตากแดดตากฝนได้รึเปล่าครับ
ฬฬฬ [12 ส.ค. 2549]



Orthophytum gurkenii

ตอบคุณ "triple ฬ "

ที่จริงกลางแจ้งเลยก็อยู่ได้สบายมากครับ

โดยเฉพาะ สกุล Dyckia, Hechtia, Encholirium,

Deuterocohnia, Puya ที่ใบค่อนข้างอวบน้ำกว่าเพื่อนพ้อง

แต่ถ้าเป็นพวกสกุล Orthophytum, Navia

และอีกบางชนิดที่ใบเขาออกจะบางกว่าหน่อย

ก็อาจต้องการแสงที่กรองแล้วสักหน่อยครับ

อย่าง Orthophytum gurkenii

ที่ใบมีลายเหมือนพวกสับปะรดดินในสกุล Cryptanthus

บางทีแดดจัดเปรี้ยงๆ

แล้วเราทิ้งแห้งไม่ได้รดน้ำอาทิตย์นึงอาจใบเหี่ยว

แต่พอรดน้ำหนักๆ ก็กลับสดใสได้เหมือนเดิมครับ





Orthophytum glabra




แต่ก็ไม่แน่เสมอไป

อย่าง Orthophytum glabra ต้นนี้

ถ้าแดดไม่จัด

ใบของเค้าก็จะไม่แดงสวยอย่างนี้ครับ




นี่เป็น สภาพที่ผมตั้งวางเจ้าพวกนี้ ก็อยู่บนโต๊ะกระเบื้องแผ่นเรียบ

ไม่ได้มีหลังคาใส หรือซาแลนใดๆ คือเปิดรับแดดรับฝนเต็มที่

แต่ก็มีเงาบ้านและไม้ใหญ่ (มะม่วงตัวแสบ...!) บังไปเสียครึ่งวันได้

Fat Man [12 ส.ค. 2549]



ก็สวยทั้งนั้นเลย แต่ผมไม่สะดวกเล่น แต่ก็มีเจ้า
Dyckia marnier-lapostollei.อยู่1กอ ครับ

MONT. [12 ส.ค. 2549]



ครับ อาจารย์มนตรี ผมเองก็พยายามเลือกสรรเฉพาะต้นที่สวยที่ชอบจริงๆ เหมือนกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องขนาด อย่างบางสกุลที่ต้นใหญ่เกะกะมากๆ เช่นพวก Hechtia บางตัว ผมก็จะไม่เก็บ แต่ก็ดูเอาครับ ขนาดพยายามเลือกพันธุ์เล็กๆ แล้ว พอเลี้ยงไปเลี้ยงไป ๆ มันก็แตกกอแน่นเบียดกันจนต้องขยายกระถางเป็นกะละมัง ที่ทางเหลือน้อยแล้วเหมือนกัน

Fat Man [12 ส.ค. 2549]








ถาม
ใช้อะไร เป็นวัสดุเพาะหรือครับ ของผมมีเมล็ดของ Araeococcus อยู่ เพาะในขุยมะพร้าว แต่รู้สึกว่าจะผุเร็วมาก ตอนนี้ต้นสูงได้ประมาณ 3-4 ซม. แล้ว

ตอบ
ผมใช้ วัสดุเพาะเมล็ดที่เป็นพวกพีทมอสส์ผสมสำเร็จรูป ซึ่งมีบรรจุถุงมาขายตาร้านเคมีเกษตรใหญ่ๆ ทั่วไป บอกยี่ห้อให้ก็ได้ โดยที่ไม่มีเจตนาช่วยโฆษณาว่าเป็นของเจียไต๋ ที่เขาสั่งเข้ามา repack เป็นถุงเล็กขายอีกทีครับ

วัสดุนี้เหมาะจะใช้เพาะพวก Bromeliad ที่เป้นไม้ดินและไม้กึ่งอากาศทั้งหลาย เพราะค่า PH เป็นกรดอ่อนๆ และไม่ค่อยมีราหรือตะไคร่มาขึ้นครับแต่ผมก็ยังไม่เคยลองเอาไปเพาะพวก cactus และไม้อวบน้ำอื่นๆ น่ะครับว่าจะได้ผลดีหรือไม่อย่างไร
Fat Man

ลืมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับวัสดุเพาะเมล็ดไป !
ที่จริงเมื่อก่อนเคยเพาะเมล็ดเจ้าพวกสับปะรดหนามโดยใช้ทรายปนขุยมะพร้าว
แต่ปรากฏว่าไม่ได้ผล คือเมล็ดงอกน้อยแถมขึ้นราเสียหายหมด และยังเกิดตระไคร่ก็ง่าย
มีอยู่วันหนึ่งไปเยี่ยมเยียนคุณอาวิชิต ทันด่วน หนึ่งในผู้ใหญ่
ซึ่งเป็นที่เคารพรักของวงการกระบองเพชร ที่บางแสน ชลบุรี
ผมไปเห็นท่านเพาะเมล็ด Dyckia ที่ติดเมล็ดเองที่รังของท่านไว้เต็มเลย
และสังเกตเห็นว่าทุก pot งอกงามดีมาก จึงสอบถามดูว่าใช้อะไรเพาะ
ก็เลยได้เคล็ดมาจากคุณอาวิชิตว่า ท่านใช้ "ดินเพาะเมล็ด" ของเกียไต๋ (ไม่ได้โฆ...น่ะ)
ซึ่งที่จริงไม่ใช่ดิน แต่เป็นพีทมอสบดผสมบรรจุถุงสำเร็จรูป
และส่วนใหญ่อาวิชิตก็ใช้สูตรนี้เพาะพวก Haworthia และ cactus ด้วยเช่นกัน

โดยปกติผมไปหาซื้อดินพีทที่ว่าได้จากร้านแถวตลาดซันเดย์ ที่ขายเคมีเกษตร ปุ๋ยยา ฯลฯ
อย่างเช่นร้านวรพงษ์ ร้านKU Garden หรือร้านทองคำใกล้สถานีรถใต้ดินในเจเจก็มีขาย
ถุงนึง 40 บาท ราคาอาจลดได้เป็นสามถุงร้อย
ดินพีทนี้สะดวกตรงที่ไม่ต้องมาอบฆ่าเชื้ออีก ใช้ได้ทันที
เพียงใส่ในกระถางเพาะ ใช้ก้นกระถางอีกใบเป็นตัวเกลี่ยและกดให้หน้าผิวดินเพาะเรียบ
จากนั้นก็โรยเมล็ดให้ไม่หนาแน่เกินไป

ในกรณีเมล็ดสับปะรดหนาม เราไม่ต้องกลบเมล็ด
จากนั้นก็ใช้ยากันเชื้อราผสมน้ำพ่นด้วยฟ็อกกี้จนชุ่ม
ใส่กระถางเพาะไว้ในกล่องพลาสติกปิดฝาให้ความชื้นสูงคงที่
กล่องควรเป็นแบบที่แสงผ่านเข้าได้พอประมาณ แต่ไม่ใช่ใสแจ๋ว
ตั้งไว้ในที่ร่มแต่ไม่มืด ถ้าได้รับแสงเช้าได้ยิ่งดี
หากเมล็ดมีคุณภาพ พียงอาทิตย์กว่าๆ สับปะรดหนามต้นจิ๋วๆ ก็จะงอกออกมาให้เราชื่นชม
รอจนต้นโตออกใบเขียวๆได้สามสี่ใบจึงเริ่มพ่นปุ๋ยทางใบสูตรเสมอแบบเจือจาง

เมื่อไม้โตเบียดกันล้นขึ้นเหนือขอบกระถางเพาะ เราก็ค่อยๆแยกเจ้าสับปะรดน้อย
ออกปลูกใน pot รวม หรือจะแยกลงกระถางนิ้วก็แล้วแต่ความขยัน
เพียงปีกว่าๆ ถึงสองปี เราก็จะมีสับปะรดหนามแสนสวยไว้เลี้ยงเล่นและแจกจ่ายเพื่อนฝูงแล้ว
และหากโชคดีอาจได้ต้นด่างหลุดมาอย่างต้นนี้
หุ..หุ ไม่ใช่ของผมหรอกครับ เป็นของเพื่อนที่อังกฤษ
ถ้าต้นนี้เข้า e-bay หล่ะก็ บอกได้คำเดียว...กระฉูด !

ป้อง (Fat Man) [1 ม.ค. 2550]



สวย มาก ครับ ที่บ้านก็มีปลูกอยู่หลายต้น ด้วยความรู้เรื่องนี้น้อยจึงปลูกโดยใช้กาบมะพร้าวอย่างเดียว ไม่ทราบว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องปลูกเหมือนกระบองเพชรครับ และการรดน้ำเหมือนกับการให้น้ำเช่นเดียวกับกระบองเพชรหรือไม่
Jack [18 ส.ค. 2549]



ถ้า สับปะรดที่คุณ Jack เลี้ยงไว้เป็นกลุ่ม xeric bromeliad หรือพวกสับปะรดหนามทนแล้งจริงๆ ก็คงไม่เหมาะที่จะใช้แต่กาบมะพร้าวเป็นเครื่องปลูกนะครับ เพราะรากฝอยๆ ของพวกนี้เขาซอกซอนหาอาหารไม่ได้เหมือนกับรากพวกไม้อากาศ

แต่ถ้าเป็น พวกสับปะรดดินหรือกลุ่มกึ่งๆ ไม้อากาศก็คง OK เพราะอย่างพวกสกุล Cryptanthus ที่เป็นสับปะรดดินซึ่งมีหน้าตาละม้ายกลุ่มทนแล้งตัวจริงๆ อยู่บ้างเขาก็พอจะขึ้นได้ในเครื่องปลูกกาบมะพร้าวครับ แต่ถ้าเป็นพวกทนแล้งแท้ๆ จะชอบเครื่องปลูกที่เป็นแบบดินปลูกกระบองเพชรครับ และค่อนข้างงามกว่าถ้าปลูกในกระถางขนาดใหญ่ แต่ไม่ลึก คือเป็นทรงชามกว้างครับ จะเห็นได้ว่าเขาจะแตกหน่อเป็นกอสวยงามได้อย่างรวดเร็วทีเดียว

เรื่อง การรดน้ำพวกสับปะรดหนามนั้น แม้ว่าพวกนี้จะเป็นกลุ่มไม้ทนแล้งก็จริง แต่เขาก็ชอบความชุ่มชื้นในเครื่องปลูกตลอดเวลาเหมือนกัน คือควรรดน้ำให้ชุ่ม รอจนดินเริ่มจะแห้งก็รดใหม่ อาจเป็นวันเว้นวัน ถ้าดินปลูกคุณแห้งเร็วหรือใช้กระถางเล็ก และอาจเป็นอาทิตย์ละครั้งถ้าเป็นกระถางใหญ่ๆ ครับ ทีสำคัญแดดต้องได้เต็มที่ ทรวดทรงสีสันใบจึงจะสวยงามตามสายพันธุ์ครับ


Fat Man [18 ส.ค. 2549]



No comments: